ทานวิตามินเสริม มีประโยชน์จริงหรือ?

26 ธ.ค. 2560 09:39 น.  |  เปิดอ่าน 8,207
0 Share
This
Page
ทานวิตามินเสริม มีประโยชน์จริงหรือ?

ทำไมสาว ๆ ต้องรับประทานวิตามิน แต่จริง ๆ แล้วหนุ่มเองก็รับประทานวิตามินเหมือนกัน เอาเป็นว่าทำไมเราจะต้องรับประทานวิตามิน และในชีวิตประจำวันของเราได้รับวิตามินจากอาหารเพียงพอแล้วหรือยัง หรือเราจำเป็นจะต้องหาวิตามินเสริมมารับประทานเพิ่มเติม แต่ก่อนหน้านั้นสิ่งสำคัญ คือ เราต้องรู้ก่อนว่าร่างกายเราขาดวิตามินอะไร หรือเราควรทราบว่าในแต่ละวันเราควรได้รับวิตามินแต่ละชนิดในปริมาณเท่าไหร่  เพราะบางทีเราอาจจะได้รับวิตามินบางตัวในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ และอาจทำให้ตับและไตทำงานหนักอีกด้วย



วิตามิน เป็นสารอาหารที่ร่างกายเราควรจะได้รับในปริมาณที่พอเหมาะและควรได้รับทุกวัน  เพราะวิตามินเป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อร่างกาย แต่เพื่อสุขภาพที่ดีนอกจากการรับประทานวิตามินแล้ว ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ด้วย
 
วิตามินแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ วิตามินที่ละลายในไขมัน กับ วิตามินที่ละลายในน้ำ
1.วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค  โดยจะเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมันหรือน้ำมันเท่านั้น  เมื่อวิตามินเข้าสู่ร่างกายจะไปสะสมอยู่ในบริเวณตับและเนื้อเยื่อไขมัน และไม่สามารถขับออกมาทางปัสสาวะได้ หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้เกิดมลภาวะพิษจากวิตามินได้  
2.วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินกลุ่มบี และวิตามินซี โดยวิตามินจะอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลา 2 – 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะ


หน้าที่ของวิตามิน

วิตามิน

หน้าที่

พบในอาหารประเภท

ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน

วิตามินเอ

สำคัญที่สุด คือ ช่วยบำรุงเรื่องสายตา และสร้างกระดูกและฟันในเด็ก

เนื้อสัตว์ ไข่แดง ตับ นม เนย ผัก และผลไม้ที่มีสีเขียวและสีส้ม

700-900 ไมโครกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 3,000 ไมโครกรัมต่อวัน

วิตามินดี

ช่วยบำรุงเรื่องกระดูก ป้องกันโรคกระดูกบางและกระดูกพรุน

น้ำมันตับปลา นม ไข่แดง ปลาทู แซลมอน

15 ไมโครกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 50 ไมโครกรัม

วิตามินอี

ช่วยบำรุงผิวพรรณ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ

กลุ่มน้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันมะกอก อัลมอนด์

15 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัม

วิตามินเค

ช่วยเรื่องการแข็งตัวของเลือด

ผักใบเขียว มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ ไข่แดง น้ำมันถั่ว ตับ เนื้อหมู

90-120 ไมโครกรัมต่อวัน

วิตามินบี 1 (ไทอามีน)

ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคเหน็บชา

เนื้อหมู เมล็ดทานตะวัน 

1.1-1.2 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน)

ช่วยเรื่องเส้นผม เล็บ และผิวหนัง ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก

ข้าว ธัญพืช เนื้อสัตว์ ไข่ นม เครื่องในสัตว์ ตับ ผักใบเขียว โยเกิร์ต ข้าวโอ๊ต

1.1-1.3 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินบี 3 (ไนอาซิน)

ช่วยเรื่องผิวหนังแห้งเมื่อเจอแสงแดด

ตับ เนื้อสัตว์ ข้าวโอ๊ต ถั่วจมูกข้าว ยีนส์ ผักใบเขียว

14-16 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 35 มิลลิกรัม

วิตามินบี 5 (แพนโททินิก แอซิด

หากขาดจะทำให้เกิดอาการเหน็บชาตามปลายมือ ปลายเท้า

เนื้อไก่ เนื้อวัว ตับ มันฝรั่ง เมล็ดทานตะวัน 

โดยทั่วไปอาหารที่เรารับประทานมีวิตามินชนิดนี้อย่างเพียงพอ

วิตามินบี 6 (ไพริดอกซีน)

ช่วยเรื่องระบบของเส้นประสาท 

เนื้อสัตว์ ปลา มันฝรั่ง กล้วย แตงโม นม ไข่ แดง ข้าวกล้อง ถั่วต่าง ๆ เมล็ดงา

1.3 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 100 มิลลิกรัม

วิตามินบี 7 (ไบโอติน)

ช่วยเรื่องผิวหนัง 

ดอกกะหล่ำ ถั่ว กล้วย แซลมอน ไข่ ตับ งา

30 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินบี 9 (โฟลิกแอซิด)

ช่วยเรื่องการสร้างเม็ดเลือด

ถั่ว ผักโขม บรอกโคลี คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดหอม

400 ไมโครกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 1,000 ไมโครกรัม

วิตามินบี 12 (ไซยาโนโคบาลามิน)

มีความสำคัญเกี่ยวกับระบบประสาท

เนื้อสัตว์ นม เนย ไข่แดง โยเกิร์ต 

2.4 ไมโครกรัมต่อวัน

วิตามินซี

ช่วยเรื่องการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง

ส้ม ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี ผักโขม แคนตาลูป มะเขือเทศ มะละกอ มันฝรั่ง ฝรั่ง สัปปะรด

75-95 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม

เมื่อร่างกายขาดวิตามินจะเป็นอย่างไร?

ร่างกายของคนเราควรได้รับวิตามินในปริมาณที่เหมาะสมแต่ไม่ควรขาดวิตามิน โดยร่างกายเราไม่สามารถสร้างวิตามินได้เอง หรือสร้างขึ้นได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นทำให้ร่างกายต้องได้รับวิตามินจากภายนอกด้วย ซึ่งหมายถึงจากการรับประทานอาหาร หรือรับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามิน หากร่างกายขาดวิตามินหรือได้รับวิตามินไม่เพียงพอจะส่งผลให้ร่างกายเสื่อมลง และเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
 
นอกจากนั้นการได้รับวิตามินมากเกินไป ก็ส่งผลอันตรายเช่นเดียวกัน เมื่อได้รับวิตามินชนิดที่ละลายในไขมันมากเกินไป สิ่งแรกที่จะเป็นอันตราย คือ ตับ หากได้รับวิตามินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้ร่างกายมีอาการผิดปกติได้ และในส่วนของวิตามินละลายในน้ำ หากได้รับมากเกินไป ไม่ก่อให้เกินอันตรายใด ๆ เนื่องจากจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ
 
ขอขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก catpick.com


ติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวสาร โปรโมชั่น IWish บน Facebook คลิกที่นี่!!

Related


Citrus-C (ซีตรัส-ซี)

Citrus-C (ซีตรัส-ซี)

สารสกัดจากอะเซโรล่าเชอร์รี่, เบต้า-แคโรทีน 1%, สารสกัดจากโรสฮิป

990.00 บาท 850.00 บาท

iWish EZY (ไอวิช อีซี่)

iWish EZY (ไอวิช อีซี่)

ไฟเบอร์ โอ๊ต, โปรตีนจากไข่ขาว, ซอยโปรตีน ไอโซเลต

1,390.00 บาท 980.00 บาท

Serene (ซีรีน)

Serene (ซีรีน)

น้ำมันรำข้าว, สารสกัดจากรำข้าว, โคเอ็นไซม์ คิวเท็น

1,290.00 บาท 850.00 บาท


  • Logo 1
  • Logo 7
  • Logo 9
  • safe&save
  • เนเจอร์ แคร์
  • ร้ายขายยาซูรูฮะ